ในช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่ของเรากำลังประสบกับปัญหาหมอกควันอย่างรุนแรงนี้ เชื่อได้ว่าน้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินคำว่า “PM2.5” แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่เคยได้ยินจะเข้าใจจริงๆ ว่าเจ้าฝุ่นจิ๋ว PM2.5 นี้คืออะไร และมันจะทำร้ายร่างกายเราและคนที่เรารักได้มากน้อยเพียงไร
ทำไมหลายหน่วยงานต้องพากันออกมารณรงค์ให้ประชาชนงดทำกิจกรรมกลางแจ้งและจำเป็นต้องใส่หน้ากากเพื่อป้องกันเจ้า PM2.5 นี้ด้วย
บางคนอาจจะคิดปรามาสว่า มันก็แค่ฝุ่น ทำไมต้องไปกลัวอะไรกันขนาดนั้น?
วันนี้หมอจะมาเปิดเผยให้ฟังกันว่า เจ้าฝุ่นเล็กๆ ที่ชื่อ “PM2.5” นี่ล่ะค่ะ ตัวการในการทำร้ายหัวใจ (และหลอดเลือด) คนเรามานักต่อนักแล้ว!
PM2.5 ก็คือฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน
เล็กแค่ไหนก็ประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมของเรา
ซึ่งขนาดของมันเล็กจนขนจมูกของเราที่ปกติจะทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถดักกรองเอาไว้ได้ เจ้า PM2.5 จึงสามารถล่องลอยไปกับอากาศที่เราหายใจเข้าไปถึงถุงลมในปอดและซึมผ่านผนังปอดเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลทำให้ระดับอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิด “การอักเสบขึ้นทั่วร่างกาย” ได้
นอกจากนี้ ฝุ่นละอองขนาดเล็กดังกล่าว ยังจะเป็นพาหะนำสารอื่นเข้ามาด้วยในปอดของเราด้วย เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก และสารก่อมะเร็งอื่นๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) จะกำหนดให้เจ้า PM2.5 จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็งเลยทีเดียว
โดยทุกๆ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรของเจ้า PM2.5 มีผลต่อสุขภาพระยะยาวพอๆ กับการสูบบุหรี่ 1 มวน พูดง่ายๆ คือ เช่นในวันที่ค่าตัวเลข PM2.5 ขึ้นไปถึง 440 μg/m3 ก็เท่ากับผู้คนที่นั่นสูบบุหรี่ถึงคนละ 20 มวนเลยล่ะค่ะ
ทีนี้มาฟังกันต่อนะคะว่าเจ้าฝุ่นละออง PM2.5 จะทำร้ายหัวใจ (และหลอดเลือด) ของคนเราได้อย่างไร
- เพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการได้รับ PM2.5 แม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาไม่นานมากแค่ 2-3 วันก็ส่งผลทำให้ความเสี่ยงของการโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้นถึง 1-3 % และถ้าหากได้รับ เป็นระยะเวลานานหลายปี ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดก็จะเพิ่มมากขึ้นถึง 10 % เลยทีเดียว
มีงานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ทำการศึกษาในคนจำนวน 83,378 คนเป็นระเวลาเกือบ 20 ปี พบว่าความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดจะเพิ่มขึ้น 10% ในทุกๆ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- ส่งผลทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เหนี่ยวนำทำให้เกิด ภาวะหลอดเลือดแข็ง ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ซึ่งภาวะดังกล่าวเป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลทำให้ความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
เห็นไหมคะว่าเจ้าฝุ่นจิ๋วแต่ร้ายกาจอย่าง PM2.5 ถึงขนาดจะเล็กจิ๋ว แต่ถ้าเราได้รับเข้ามาในร่างกายเป็นปริมาณมากก็เล่นงานเราถึงกับเสียชีวิตได้เลยนะคะ
และไม่ใช่เพียงแค่ปอดและหัวใจเท่านั้นนะคะที่โดนเล่นงาน
เจ้า PM2.5 ยังสามารถทำร้ายสมองของเราได้อีก.....
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ.....
ด้วยความปรารถนาดีจาก
อายุรแพทย์ด้านระบบประสาทและโรคจากการนอนหลับ
ศูนย์โรคระบบประสาทและสมอง โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่
เอกสารอ้างอิง:
Rajagopalan et al. Air Pollution and Cardiovascular Disease. Journal of the American College of Cardiology. 2018, 72(17)