รู้เท่าทันห่างไกล “ภาวะก่อนเบาหวาน” - โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่

 

“โรคเบาหวาน” คำที่ทุกคนได้ยินจนเคยชินและรู้จักกันเป็นอย่างดีส่วนคำว่า “ภาวะก่อนเบาหวาน” คืออะไร เหมือนหรือต่างกันอย่างไร โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่จะมาให้คำแนะนำและวิธีป้องกันห่างไกลโรค

“ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่จะวินิจฉัยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากมักไม่ทราบว่าตนเองมีความเสี่ยงภาวะก่อนเบาหวาน ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคเบาหวานในอนาคตเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดหัวใจ และภาวะแทรกซ้อนมากขึ้น

 


สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย

ลักษณะอาการของภาวะก่อนเบาหวาน “ภาวะก่อนเบาหวาน” มักไม่แสดงอาการ หรืออาจมีอาการของโรคเบาหวาน เช่น หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย หิวบ่อย อ่อนเพลีย มองเห็นภาพไม่ชัด

 

อะไรคือปัจจัยเสี่ยงของภาวะก่อนเบาหวานมีอะไรบ้าง?

  • ภาวะน้ำหนักตัวเกิน
  • ไม่การออกกำลังกาย
  • อายุ 45 ปี ขึ้นไป
  • มีกลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic ovarian syndrome)
  • สูบบุหรี่
  • เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูง
  • มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
  • มีประวัติเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือเคยคลอดบุตรน้ำหนักตัวมากกว่า 4 กิโลกรัม

 

 

ทำไมเราจึงต้องให้ความสำคัญ “ภาวะก่อนเบาหวาน” เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่หลากหลายดังต่อไปนี้

  1. โรคเบาหวานชนิดที่2 (Type 2 Diabetes ) ผู้ป่วยกลุ่มภาวะก่อนเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานถึง 5-10 % ต่อปี
  2. พบการมองเห็นผิดปกติจากเบาหวานที่ตาได้( Retinopathy)
  3. การทำงานของไตลดลง (Nephropathy) หรือมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะได้
  4. เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย (Peripheral neuropathy)
  5. เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง มากกว่าคนปกติ
  6. เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง กระเพาะ ลำไส้ เต้านม เยื่อบุโพรงมดลูก

 

การวินิจฉัย “ภาวะก่อนเบาหวาน”  หากมีลักษณะอาการเบื้องต้นดังที่กล่าวด้านบน แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยวิธีการตรวจวินิจฉัยมีข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์ผู้ประเมินอาการ

  1. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง(Fasting plasma glucose)
  2. การตรวจความทนต่อกลูโคส(Oral glucose tolerance test)
  3. การตรวจระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด (HbA1c) ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงระดับน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

 

รักษาภาวะก่อนเบาหวานได้อย่างไร ?

  1. ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือลดน้ำหนักอย่างน้อยร้อยละ 7 จากน้ำหนักตั้งต้น
  2. ออกกำลังกายแบบหนักปานกลางสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือวันละประมาณ 20 – 30 นาทีเช่น วิ่งเร็วพอประมาณ รู้สึกเหนื่อย แต่ยังพอพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ได้
  3. ลดการรับประทานอาหารจำพวกไขมัน
  4. หยุดสูบบุหรี่
  5. สำหรับในรายที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผลหรือไม่สามารถทำได้ แนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

ด้วยความปรารถนาดี

พญ. พร้อมพรรณ พฤกษากร  อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม

แผนกอายุรกรรม  | โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่

โทร. 052 089 888 หรือ Call Center 1719

Line Official @bangkokchiangmai

 

บทความที่เกี่ยวข้องกัน

 

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง