“เป็น (ภูมิ) แพ้ ก็ต้องดูแลตัวเอง หลายท่านคงคุ้นเคยกับคำว่า ‘โรคภูมิแพ้’ และมักพบคนรอบข้างบอกว่าเป็น โรคภูมิแพ้ อยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่บางคนอาจมีอาการภูมิแพ้แสดงออกมาให้เห็น เช่น คันจมูก คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล หรือ ตาแดง แม้ว่า โรคภูมิแพ้ อาจฟังดูไม่รุนแรง แต่ในรายที่มีอาการรุนแรง หรือ ไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้”

 

โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ - โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่

 

ทำความรู้จักกับ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

โรคภูมิแพ้ที่มักพูดถึงกัน จริง ๆ แล้ว คือ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้  ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่มีการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูก โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เช่น กรรมพันธุ์ หรือ การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เป็นต้น

 

จากสถิติพบว่าในประเทศไทย โรคนี้สามารถพบได้มาถึงร้อยละ 30 ของประชากร และร้อยละ 15 – 38 มักมีอาการหอบหืดร่วมด้วยซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ และหากไม่ทำการรักษาก็อาจส่งผลต่อการควบคุมอาการหอบหืดได้เช่นกัน

 

เมื่อเทียบกับโรคอื่นแล้ว โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้อาจฟังดูไม่รุนแรง บางคนมีอาการไม่มาก ในขณะที่บางรายอาจมีอาการมากจนรบกวนคุณภาพชีวิตได้ เช่น รบกวนคุณภาพการนอน สมองไม่โล่ง กระวนกระวาย อ่อนเพลีย และในผู้ที่แพ้เกสร พบว่าส่งผลกระทบต่อการเรียนและการทำงานที่แย่ลงในฤดูที่มีเกสรมาก

 

อาการที่มักพบบ่อย

  • คันจมูก จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก
  • บางรายมีอาการทางตาร่วมด้วย เช่น คันตา ตาแดง น้ำตาไหล

 

โรคภูมิแพ้ (แพ้ขนสัตว์) - โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่

 

ทั้งนี้อาการเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่มีอาการตลอด ซึ่งสัมพันธ์กับสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา แมลงสาบ และ รังแคสัตว์ กับ กลุ่มที่มีอาการเป็นครั้งคราว (Seasonal) ซึ่งเป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้นในช่วงใดช่วงหนึ่งหรือเป็นเพียงบางฤดูกาล ซึ่งสัมพันธ์กับสารก่อภูมิแพ้นอกบ้าน เช่น เกสร หรือ เชื้อรา

 

การตรวจวินัยและการประเมิน

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์จะทำการซักประวัติอาการของโรคจมูกอักเสบ ประเมินโรคอื่นร่วมด้วย และตรวจหาว่าผู้ป่วยแพ้สารใดบ้างเนื่องจากการรักษาอย่างแรกสุดคือ การให้ผู้ป่วยเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้หากเป็นไปได้

 

โดยการทดสอบสารก่อภูมิแพ้ที่ใช้กันทั่วไปทางคลินิก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ดังนี้

  • การทดสอบทางผิวหนัง ( เป็นการนำสารก่อภูมิแพ้มาทดสอบกับผิวหนังของผู้ป่วยว่ามีปฏิกิริยาหรือไม่ ซึ่งวิธีนี้มีข้อดี เนื่องจากสามารถทราบผลหลังทดสอบได้เลย
  • การเจาะเลือด (Allergy blood test) วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีอาการอักเสบทางผิวหนังอย่างมาก หรือ อาการแพ้อย่างรุนแรงต่อสารที่ต้องการทดสอบ แพทย์จึงพิจารณาการทดสอบโดยการเจาะเลือดแทน แต่จะใช้เวลาในการรอผลประมาณ 3 วัน

 

ทั้งนี้โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ของเรามีการทดสอบทั้งสองชนิด ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินว่าวิธีใดเหมาะสมที่สุด

 

การรักษาโรคภูมิแพ้จมูกอักเสบ

การรักษาจมูกอักเสบภูมิแพ้อย่างแรกสุดหากเป็นไปได้ ควรเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดการแพ้  นอกจากนั้นจะเป็นการใช้ยาซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความต้องการของผู้ป่วย ความรุนแรงของอาการ และประสิทธิภาพของการรักษาแต่ละชนิด เป็นต้น

 

คำแนะนำในการดูแลตัวเองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ทั้งนี้คุณหมอได้ให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองเมื่อตรวจพบโรคภูมิแพ้มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ฝุ่นละออง เกสร ไรฝุ่น หรือ เชื้อรา เป็นต้น
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้

 

“ อย่างไรก็ตามวิธีการรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือ โรคภูมิแพ้ให้ได้ผลดีนั้น นอกจากการพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยแล้ว การดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้นและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

 

 

ด้วยความปรารถนาดีจาก

นพ. อธิษฐ์ วุฒิสารวัฒนา

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก

แผนกอายุรกรรม | โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่

 

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

แผนกอายุรกรรม

โทร 052 089 823

Call Center: 1719

" เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 07.00 – 20.00 น. "