ในวันที่ชาวเชียงใหม่อย่างเราๆ มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นพิษ PM 2.5 จนมองไม่เห็นภูเขาสวยๆ ดวงอาทิตย์ ทั้งยังบดบังทัศนวิสัยการขับขี่ ไหนจะหายใจด้วยความยากลำบาก บ้างก็แสบตา แสบคอ หลายการศึกษาพบว่ามลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะจาก PM 2.5 เพิ่มความรุนแรงของโรคทางเดินหายใจทำให้เกิดการอักเสบและการบวม จนทำให้โรคถุงลมโป่งพอง โรคหอบหืด ภูมิแพ้ กำเริบได้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นในทุกขณะ
ใครเลยจะนึกว่า เจ้าฝุ่นละอองจิ๋ว PM 2.5 นี้ยังจะตามมาเป็นอันตรายแก่พวกเราแม้ยามหลับยามนอนอีกด้วย!
มีการศึกษาหลายการศึกษาได้พบว่ามลภาวะโดยเฉพาะ PM2.5 เพิ่มความรุนแรงของโรคทางเดินหายใจเนื่องจากทำให้เกิดการอักเสบและการบวม ทำให้โรคถุงลมโป่งพอง หอบหืด ภูมิแพ้ กำเริบได้
เป็นที่รู้กันดีว่าโรคนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ นั้นส่งผลร้ายมากมายต่อร่างกายเราขนาดไหน
โดยทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก ภาวะอ้วน โรคซึมเศร้า ภาวะนอนไม่หลับและอื่นๆ .....
มีการศึกษาหลายการศึกษาได้พบว่ามลภาวะโดยเฉพาะ PM2.5 เพิ่มความรุนแรงของโรคทางเดินหายใจเนื่องจากทำให้เกิดการอักเสบและการบวม ทำให้โรคถุงลมโป่งพอง หอบหืด ภูมิแพ้ กำเริบได้
นอกจากนั้นแล้ว.....ที่น่าตกใจไปกว่านั้น!
ไม่นานมานี้ มีงานวิจัยชิ้นนึงชิ้นหนึ่งที่ทำในสหรัฐอเมริกา พบว่าการสัมผัสมลภาวะเป็นระยะเวลานานๆทำให้เสี่ยงต่อการกรนและหยุดหายใจมากขึ้นได้อีกด้วย
โดยการศึกษานี้วัดมลภาวะรอบบ้านของกลุ่มตัวอย่างคนจำนวน 1,974 คน ในสหรัฐอเมริกา เป็นเวลานาน 5 ปี โดยการวิจัยนี้ได้ตัดปัจจัยความเสี่ยงอื่นๆที่ อาจส่งผลเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหยุดหายใจขณะหลับออกแล้ว เช่น เพศ ความอ้วน เป็นต้น
จากการศึกษาพบว่า การสัมผัสกับมลภาวะ ฝุ่นPM2.5 เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหยุดหายใจขณะหลับ
- การหายใจเอาทุกๆ 5 µg/m3
- ของ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้น (เฉลี่ยทั้งปี)
- จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหยุดหายใจขณะหลับถึง 60%
อย่างไรก็ตามสาเหตุยังไม่มีการระบุสาเหตุอย่างทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาดังกล่าว คาดว่าผู้ป่วยอาจเกิดจากการอักเสบและการบวมของทางเดินหายใจส่วนต้น อีกทั้งร่วมกับการที่ฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่สมองได้โดยตรงไปอาจมีผลกับสมองที่ควบคุมการหายใจโดยตรงอีกด้วย.....
เราจึงควรสวมหน้ากาก .... และเปิดเครื่องฟอกอากาศชนิดที่มีคุณสมบัติ.... เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสต่อ PM 2.5 โดยตรงแม้ขณะอยู่ในอาคารบ้านเรือน
โดยสรุปก็คือปัจจัยเรื่องฝุ่นมลภาวะกลายเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่มีอันตรายต่อมนุษย์ในขณะตื่นและหลับ จำเป็นนึงที่ทุกๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน รวมทั้งตัวเราเองจะต้องให้ความสำคัญและร่วมมือกันแก้ปัญหาฝุ่นพิษเหล่านี้ให้ได้อย่างยั่งยืนโดยเร็วที่สุดมากขึ้นนั่นเอง
เพราะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาอย่างมากมายเลยทีเดียว
เรื่องโดย ด้วยความปรารถนาดีจาก
อายุรแพทย์ด้านระบบประสาทและโรคจากการนอนหลับ
ศูนย์โรคระบบประสาทและสมอง โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่