กลัวเข็ม? ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! วัคซีนภูมิแพ้ชนิดเม็ด ช่วยให้คุณจัดการกับโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นได้อย่างง่ายดาย สะดวก ปลอดภัยโดยไม่ต้องทนฉีดยา สำหรับผู้มีอาการภูมิแพ้ วัคซีนภูมิแพ้ชนิดเม็ดอมใต้ลิ้น (Sublingual Immunotherapy): ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ตรวจพบว่าแพ้ไรฝุ่น รวมถึงในการรักษาโรคเยื่อบุจมูกอักเสบและหอบหืด
โดยก่อนที่ผู้ป่วยจะสามารถรับวัคซีนภูมิแพ้ชนิดเม็ดนี้ แพทย์จะต้องประเมินการแพ้เบื้องต้นด้วยการตรวจทางผิวหนัง (skin prick test) หรือการตรวจเลือด ซึ่งคุณสมบัติของยาจะค่อยๆ ทำหน้าที่ปรับเปลี่ยนภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยส่งผลให้ทนต่อการกระตุ้นจากไรฝุ่นมากขึ้น ช่วยให้อาการของโรคดีขึ้นและปริมาณการใช้ยาชนิดอื่นๆ ลดลง ลดการกำเริบของหอบหืด การตื่นกลางคืน รวมถึงลดจำนวนการใช้ยาฉุกเฉินและสมรรถภาพปอดที่แย่ลงได้ ทั้งนี้อาจใช้เวลา 8-14 สัปดาห์จึงจะเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา
เนื่องจากยาละลายและถูกดูดซึมผ่านเนื้อเยื่อใต้ลิ้น การใช้ยาจึงต้องเป็นไปตามวิธีการรักษาดังนี้
- อมยาใต้ลิ้น โดยไม่กลืนน้ำลายอย่างน้อย 1 นาที
- ห้ามรับประทานหรือดื่มน้ำหลังใช้ยาอย่างน้อย 5 นาที
ระยะเวลาในการใช้ยา
ควรอมยาใต้ลิ้นเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี รวมถึงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ประเมินอาการ โดยจากการศึกษาพบว่าหลังหยุดยาไปแล้วจะยังคงฤทธิ์ของการรักษาไปอีก 2 ปี
เปรียบเทียบข้อดีของวัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้นเมื่อเทียบกับแบบฉีด
- ปลอดภัยกว่า
- เกิดการแพ้แบบรุนแรงน้อยกว่า
- ไม่ต้องเจ็บตัวเนื่องจากไม่ต้องถูกฉีดยา
- สะดวกสบายไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล เนื่องจากสามารถใช้ยาได้ที่บ้าน
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
- ระคายคอ
- ปากหรือริมฝีปากบวม
- คันปากและหู
โดยผลข้างเคียงดังกล่าวจะลดลงเมื่อระยะเวลาผ่านไป
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้วัคซีนภูมิแพ้ชนิดอมใต้ลิ้น
- ผู้ที่อายุน้อยกว่า 12 ปีขึ้นไป
- ผู้ป่วยหอบหืดที่มีอาการรุนแรง
- ผู้มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือ โรคมะเร็ง
- ผู้ที่กำลังใช้ยาที่ส่งผลกดภูมิคุ้มกัน
- ผู้มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของเม็ดยา (เม็ดยาประกอบด้วยเจลาตินจากปลา แมนนิทอล และโซเดียมไฮดรอกไซด์)
- ผู้ที่เพิ่งถอนฟัน ผ่าตัดในช่องปาก มีแผลหรือติดเชื้อในปาก
ด้วยความปรารถนาดี
อายุรแพทย์ผู้ชำนาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน
โทร. 052 089 888 หรือ 1719