ปลุก “สมดุลใหม่” แห่งชีวิต ความสุขใหม่ที่ออกแบบร่วมกัน
เราทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 กันถ้วนหน้าในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราจึงต้องปรับตัวให้อยู่ร่วมกับสิ่งเหล่านี้ที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันของเราไป ทั้งด้านการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ ทั้งชนิดพลิกผันฉับพลันและแบบทยอยเสียหายสะสมในทุกๆ วัน มากน้อยแตกต่างกันไป การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อาจส่งผลให้เรา “เสียสมดุล” เดิมที่เป็นปกติสุขไปได้แบบไม่รู้ตัว
เราหงุดหงิดใส่คนรอบตัวง่ายขึ้น
เรานอนไม่หลับ
เราเบื่ออาหาร
เราร้องไห้ (นับรวมไปถึงการแอบไปร้องไห้เงียบๆ) บ่อยครั้ง
เราเสียขวัญ ท้อแท้ ตั้งตัวไม่ทัน รู้สึกเคว้งคว้าง
เราผิดหวัง หมดหวัง จนทำใจให้ยอมรับไม่ได้ง่ายๆ
เราเค้นความแข็งแกร่งจนหมดแรง
…
“เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าสภาวะทางอารมณ์เหล่านี้ ส่งผลกระทบถึงชีวิตประจำวัน ก็ควรมาพบแพทย์”
อันที่จริงแล้วความเครียดก็มีข้อดีอยู่บ้างในการผลักดันให้แต่ละคนมุ่งพัฒนาตัวเองด้านการใช้ชีวิตและการทำงาน แต่หากมากเกินไป ก็จะบั่นทอนการใช้ชีวิตประจำวันและอาจทำให้เราแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมที่อาจเป็นปัญหาในแง่ของสัมพันธภาพและการงาน ความรุนแรงของความเครียด ความวิตกกังวลเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับความถี่ เช่น กังวลซ้ำซาก ไม่อาจหาทางออกได้ ไปจนถึงการจมจ่อมอยู่กับปัญหาเหล่านี้ต่อเนื่อง หากเดิมทีเราเป็นคนโมโหง่าย หงุดหงิดง่าย แต่ช่วงหลังหงุดหงิดจนกระทบไปถึงความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด หรือคุยกับใครไม่รู้เรื่อง รู้สึกว่าปัญหาเหล่านี้ไม่มีใครเข้าใจ หรือไม่ไว้วางใจพอจะเล่าสู่ จนถึงขั้นรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ ก็แสดงว่าเราจำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแล้วนั่นเอง
เช่นเดียวกับร่างกาย จิตใจของคนเราเมื่อได้รับแรงกระทบอย่างต่อเนื่องจากภาวะเครียดอาจเกิดอาการ “ป่วย” ขึ้นมาได้จากปฏิกิริยาตอบสนองต่อปัญหาต่างๆ ที่แตกต่างกัน และมีแนวทางในการแก้ไขซึ่งต่างกัน โดยปกติแล้วเมื่อเรารู้สึกกดดันมากๆ หรือรู้สึกหาทางออกไม่ได้ เราอาจจะพยายามพึ่งพาบุคคลใกล้ชิด ไม่ว่าจะคนรัก คนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สนิท ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เราระบายความรู้สึกแย่ๆ ออกไปได้แล้ว ยังได้รับคำแนะนำจากบุคคลเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
“จิตแพทย์” ก็ถือเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่ง และเป็นทางเลือกที่ดีในการระบายหรือหาทางออกที่เหมาะสม เนื่องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้พร้อมรับฟังโดยไม่ด่วนตัดสิน มีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาความเครียด โดยคำนึงถึงความลับส่วนบุคคลอีกด้วย
ปลุก “สมดุลใหม่” งานออกแบบความสุขที่แพทย์และผู้ป่วยต้องช่วยกัน
ที่แผนกจิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ จิตแพทย์จะทำงานร่วมกับคุณในการออกแบบวิธีการดูแลรักษาสุขภาพจิตใจเพื่อปรับสมดุลใหม่ จนได้ “แนวทางการรักษาที่คำนึงถึงทัศนคติและพฤติกรรมเดิม” ในการดำเนินชีวิต ไม่ฝืนธรรมชาติเดิมของผู้ป่วยแต่ละราย นำไปสู่ผลการรักษาที่มีความยั่งยืนและแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง
ความสุขที่เกิดขึ้นเมื่อจิตใจและอารมณ์ได้รับการปรับเข้าสู่สภาวะ “สมดุลใหม่” จะทำให้เราสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม มีสุขภาพจิตใจและร่างกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน
ด้วยความปรารถนาดีจาก
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชศาสตร์